วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

แฟนเก่า Ver.1

สืบเนื่องจากอีเมลล์ฉบับหนึ่งที่ได้รับ
เคยคิดไว้หลายครั้งแล้วว่าอยากจะอัพไดอารี่เรื่องแฟนเก่าเก็บไว้
มัวแต่ยุ่งๆเลยลืมทุกที แต่หลังจากอ่านอีเมลล์ฉบับเมื่อเช้า
เลยคิดว่าได้ฤกษ์สักที
ที่อยากอัพเรื่องแฟนเก่าเก็บไว้ก็เพราะว่า
ทุกๆเรื่องราวต่างล้วนหล่อหลอมความเป็นเราในวันนี้
และทุกๆเรื่องราวล้วนเป็นความทรงจำที่ดี
เริ่มต้นเลยแล้วกันนะ
เราเป็นคนที่มีแฟนน้อยมาก(แฟนแบบจริงๆจังๆอ่ะนะ)
หลังจากที่นั่งนับนิ้วมือ+นิ้วเท้าแล้ว
ได้เบ็ดเสร็จ”2คน”
คนแรกเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนชื่อน้อง”ปุ๋ย”
เรารู้จักกับปุ๋ยตอนเราอยู่ม.4แต่ปุ๋ยอยู่ม.3(เลี้ยงเด็กว่างั้นเถอะ)
รู้จักกันได้เพราะเล่น”โอน้อยออก”กัน(ปันยาอ่อนได้อีก)
ปุ๋ยอยู่โรงเรียนมา3ปี เราอยู่โรงเรียนมา4ปี ไม่เคยเห็นหน้ากัน
ที่รู้จักกันเพราะโอน้อยออก คาดว่าเป็นเพราะพรหมลิขิต(เหรอ?)
สมัยก่อนปุ๋ยเป็นเด็กหมวยๆใส่แว่นสีแดง
ทั้งโรงเรียนก็จะเรียกปุ๋ยว่า”ทอมแว่นแดง”
มีชื่อเสียงมากในเวปโรงเรียน ขึ้นชื่อเรื่องความหน้าม่อและเจ้าชู้
ส่วนเราเป็นผู้หญิงธรรมดา อ้วน ขาว ใส่เหล็กดัดฟัน ทำตัวผิดระเบียบ
ที่อยู่ในกลุ่มเด็กที่ไม่ค่อยตั้งใจเรียน และชอบมีเรื่องให้อาจารย์ปวดหัวได้ทุกวัน
ปุ๋ยเป็นคนขี้สงสัย ส่วนเราเป็นพวกชอบอธิบาย
เมื่อเด็กขี้สงสัยกับป้าที่ชอบอธิบายมาเจอกัน
นิยายรัก ณ รั้วจิงกะเบล ก็ได้วิบัติขึ้นมา
ระหว่างที่โรงเรียนมีกิจกรรมการนับโต๊ะเรียนเกิดขึ้น
(มันเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์เหรอ?)
ปุ๋ยได้มานับโต๊ะเรียนในห้องเรียนที่เรานั่งอยู่
เราด้วยความคะนองแบบไม่ได้คิดอะไร
ก็เสร่อไปถามปุ๋ยว่า”น้องๆน้องแว่นแดงมีเบอร์ป่ะ?”
เด็กแว่นแดงก็รีบบอกทันควันว่า ”081-xxxxxxx”ซึ่งมันมาสารภาพตอนหลังว่า
ที่ให้เบอร์เพราะอยากให้สอนเล่นโอน้อยออก(กำ)
เนื่องจากปุ๋ยมีร้านขายของอยู่ที่ท่าเรือศิริราช
เรากับปุ๋ยจึงได้เจอกันทุกเย็น(เพราะเราต้องข้ามเรือไปเรียนพิเศษที่ฝั่งพระนคร)
เจอกันทุกๆวันเข้าก็เริ่มโทรคุยกัน คุยกันไปสักพัก
ปุ๋ยก็มาสารภาพว่าปุ๋ยมีแฟนแล้วเพิ่งคบกันก่อนที่จะเจอเราประมาณอาทิตย์นึง
เราก็ไม่ได้อะไร ก็เฉยๆคุยๆกันไปแบบพี่น้อง
แต่พอหลายๆเดือนเข้า เราก็รู้ได้ว่าความรู้สึกมันแปลกๆไป
เราเริ่มหงุดหงิดที่เห็นปุ๋ยเหนคนอื่นสำคัญกว่าเรา
และแฟนปุ๋ยกับปุ๋ยจะดูเหมือนว่าไม่รู้จักกัน ไม่เคยคุยกันในโรงเรียน
จะมีแต่เพื่อนในกลุ่มของแต่ละฝ่ายเท่านั้นที่รู้ว่าสองคนนี้คบกัน
ส่วนคนอื่นๆในโรงเรียนก็คิดว่าเรากับปุ๋ย จีบๆกันอยู่(โรงเรียนมันเล็ก)
พอเข้าเทอมสองก็จะเข้าช่วงวาเลนไทน์
ในวันที่13ก.พ ปุ๋ยชวนเราไปซื้อตุ๊กตาให้คนพิเศษ(มันบอกอย่างนั้น)
เราก็ไปด้วยความไม่เต็มใจ ก็แหงหล่ะ
ชวนไปซื้อตุ๊กตาให้คนพิเศษ
ในใจก็แบบ”ชวนกุเพื่อ?”
รู้บ้างไม๊?ว่ากุไม่ค่อยบริสุทธิ์ใจเท่าไหร่
เดินๆอยู่ในคิคูย่าก็แบบตะบี้ตะบันเดินเลือกมันไป
ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ ก็เค้าไม่ได้ซื้อให้เรานี่หว่า
จนแล้วจนเล่าเราก็ไปถูกใจตุ๊กตาลิงอยู่ตัวหนึ่ง
เราเลยบอกว่า”เอาตัวนี้แหละปุ๋ย”
“เพราะหน้ามันเหมือนปุ๋ยเปี้ยบเลย จะได้เป็นตัวแทนปุ๋ยไง”

พูดไปทั้งที่ใจร้องไห้กระซิกๆ (เน่าๆ)
พอซื้อเสร็จระหว่างที่รอจะข้ามถนนหน้าคิคูย่า
ปุ๋ยก็ยื่นถุงตุ๊กตาลิงให้เรา พร้อมกับพูดว่า
“อ่ะให้ สำหรับคนพิเศษของเรา”
กรี๊ด!!!!! อิชั้นบ่อน้ำตาแตกมันตรงหน้าถนนคิคูย่าในเครื่องแบบนักเรียนนั่นแหละ
โห...เซอร์ไพรส์แรงเวอร์ๆอ่ะ
และตุ๊กตาตัวนั้นคือจุดเริ่มต้นของคำว่า”แฟนคนแรก”
แต่หลังจากวันนั้นปุ๋ยก็ยังไม่สามารถเลิกกับแฟนได้
เพราะผุ้หญิงคนนั้นไม่ได้ผิดอะไร ไม่มีเหตุผลในการที่จะบอกเลิก
ส่วนเราก็เป็น”แฟนเก็บอยู่แบบเจ็บๆอย่างคนเป็นน้อย”
เราไม่เคยบังคับให้ปุ๋ยไปเลิกกับคนนั้นเพราะรู้ว่าเรามาทีหลัง
(สมัยนั้นนางเอกค่อดๆ)
ปุ๋ยมาอยุ่กับเราทุกเย็น โทรคุยกับเราทุกคืน
ตอนเช้าก็ไปโรงเรียนพร้อมเรา เสาร์ อาทิตย์ก็ไปเที่ยวสยามด้วยกัน
แต่ปุ๋ยก็ยังไม่สามารถเลิกกับผู้หญิงที่ไม่ผิดอะไรคนนั้นได้
เรากินข้าวแทนน้ำตาอยู่เป็นสิบๆเดือน
จากหนัก70กว่าโลก็ลดเหลือ60โล
จนถึงวันที่เราถึงที่สุด คือคืนวันปีใหม่
ปุ๋ยถามเราว่าอยากได้อะไรเป็นของขวัญปีใหม่
เราเลยบอกกับปุ๋ยว่าเราอยากได้ในสิ่งที่ปุ๋ยให้ไม่ได้
คือ “เราอยากให้ปุ๋ยไปเลิกกับแฟนซะ”
“เราไม่อยากอยู่แบบทุกวันนี้”
“เราทนกับสภาพแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว”
“ถ้าปุ๋ยไม่เลิกกับแฟนปุ๋ย ภายในหนึ่งอาทิตย์ เราจบกัน”
“ไม่ต้องโทรหา ไม่ต้องมาอยู่ด้วยกันอีกแล้ว”
“ได้โปรด..ถ้าไม่เลิกกับเค้าก็ปล่อยเราไปสะที”
ร้องไห้ข้ามปีกันไปเลยทีเดียว
พอวันรุ่งขึ้นซึ่งที่โรงเรียนจัดงานปีใหม่
ปุ๋ยจูงมือเราไปที่สนามบาสที่แฟนปุ๋ยนั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อน
พอเรากับปุ๋ยเดินไปถึง
แฟนปุ๋ยก็ยื่นกล่องช็อคโกแล็ตฟอร์เรโร่รูปหัวใจอันใหญ่ให้ปุ๋ย
ปุ๋ยเอื้อมมือไปรับกล่องช็อคโกแล็ตแล้วพูดขึ้นมาว่า
“ต่อไปนี้เราเลิกกันเถอะ เป็นพี่น้องกันดีกว่านะ”
“เพราะเรารักพี่มัด”
“นับจากวันนี้ไปเราจะคบกับพี่มัด”
ในนาทีนั้นเราช็อค หน้าเอ๋อไปเลย
เพราะเราไม่เคยคิดให้ปุ๋ยใช้วิธีที่รุนแรงเท่านี้
แต่ก็นะ ถ้าปุ๋ยไม่ทำแบบนี้เราก็จบเหมือนกัน
หลังจากนาทีนั้น เราก็เป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโรงเรียน
เพราะปุ๋ยตามใจ เอาใจ และเข้าใจเรามากๆ
ทุกเทศกาล ทุกวันครบรอบ เรามักจะได้ทุกสิ่งที่เราอยากได้จากปุ๋ยเสมอๆ
กระเป๋าแบรนด์เนม ช่อดอกไม้ ตุ๊กตา โทรศัพท์มือถือ
เดินสยามทุกเย็น ถ่ายรูปสตูฯทุกอาทิตย์
กินทุกร้านที่เราอยากกิน ซื้อรองเท้าอาทิตย์ละ10คู่
จนเราเป็นดี้ที่น่าอิจฉาที่สุดในรั้วจิงกะเบล
แต่ก็เพราะความน่าอิจฉานั่นแหละ
ที่เป็นสาเหตุให้เราต้องเลิกกัน
เพื่อนในกลุ่มห่างๆของเราจีบปุ๋ย
ซึ่งปุ๋ยบอกเราว่าปุ๋ยไม่ได้เล่นด้วย
แต่ปุ๋ยก็ไม่ได้ปฎิเสธ
แม้ปุ๋ยกับเพื่อนคนนั้นจะไม่ได้มีอะไรต่อกัน
แต่เราเคยเจ็บ เคยรอปุ๋ยมาเป็นปี
จะให้เราต้องทนกับคนที่จงใจจะแย่งแฟนเรา
และแฟนเราก็ไม่ปฎิเสธไมตรีนั้น”เราคงทนไม่ได้”วันนึงเมื่อปุ๋ยมาสารภาพว่าเพื่อนเราคนนั้นมาขอคบ
แต่ปุ๋ยไม่ได้คบด้วย ซึ่งเรื่องนี้พ้นมาเป็นเดือนๆแล้ว
เราจึงระเบิดแบบเงียบๆ
วันที่เรารู้เรื่องเราถามปุ๋ยแค่คำถามเดียวว่า
“ทำไมไม่บอกเราแต่แรก”
และหลังจากวันนั้นเรากล้าพูดได้เต็มปากว่า
“เราทำทุกวิถึทางเพื่อให้ปุ๋ยเจ็บที่สุด”
“ไม่สนใจ นอกใจ โกหก “
จนในที่สุด ปุ๋ยตัดสินใจ
”ฆ่าตัวตายด้วยการกินยา ”แต่เราไปเจอก่อนและเป็นคนล้วงคอปุ๋ยเอายาออกมาให้หมด
แล้วทำให้อาเจียน แล้วให้แม่ปุ๋ยพาไปโรงพยาบาล
จากวันนั้นปุ๋ยทรมานเพราะเรามาอีกเป็นปีๆ
จนสุดท้ายปุ๋ยถึงที่สุด ปุ๋ยก็ทำใจได้
(คนเราเมื่อเจ็บจนสุดแล้วก็จะทำใจได้เอง)
หลังจากวันที่ปุ๋ยเลิกกับเราแบบขาดสนิท
เรากับปุ๋ยไม่คุยกันเป็นเวลา1ปีเต็ม
เพราะเรามีแฟนใหม่ ส่วนปุ๋ยก็ใช้เวลาทำใจ
ในวันที่เราทะเลาะกับแฟนใหม่จนถึงขั้นเลิกกัน
เราร้องไห้เสียใจ ฟูมฟายและคนที่ทำให้เสียใจก็ไม่ไยดี
เราโทรไปหาปุ๋ยบอกให่ปุ๋ยอภัยในสิ่งที่เราเคยทำให้ปุ๋ยเสียใจ
ปุ๋ยบอกเราว่า....
”เราไม่เคยโกดหรือเกลียดพี่มัดเลยสักนิด เราให้อภัยพี่มัดได้ทุกอย่าง”
“และถึงเค้าจะไม่รักพี่มัด และถึงพี่มัดจะไม่มีใคร”
“เราก็จะยังรักพี่มัด และพี่มัดก็จะมีเราเสมอ”
ในวินาทีนั้นบอกได้คำเดียวว่า”รู้สึกผิดถึงที่สุด”
และเราก็รู้สึกได้เองว่า..
“เราจะไม่มีวันทำให้คนๆนี้ต้องเสียใจเพราะเราอีก”
ฉะนั้นทางที่ดีที่สุดคือ...
“เรากับปุ๋ยตกลงเป็นพี่น้องตลอดไป”
เพราะการเป็นแฟนกัน มันอาจจะต้องทะเลาะกัน
นอกใจหรือไม่เข้าใจกันจนถึงจุดที่ต้องเลิกกัน
แต่การเป็นพี่น้องไม่มีวันเลิกกัน....
จากวันแรกที่เรากับปุ๋ยเจอกันจนถึงวันนี้ เป็นเวลากว่า8ปี
ห่างกันบ้างสนิทกันบ้างแต่ยังไงๆเราก็โตมาพร้อมๆกัน
วันนี้เราจะช่วยเหลือปุ๋ยทุกๆอย่างเท่าที่เราช่วยได้
ส่วนปุ๋ยไม่ว่าจะทำอะไรที่เป็นเรื่องใหญ่ๆก็จะโทรมาปรึกษาเราก่อนเสมอ
ตอนนี้ปุ๋ยต้องรับผิดชอบอะไรหลายๆอย่าง
ทั้งชีวิตตัวเอง และน้องสาวรวมถึงทรัพย์มรดกที่แสนจะวุ่นวาย
แต่เราก็พร้อมที่จะคอยช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้ปุ๋ยเสมอๆ
ปัจจุบันปุ๋ยมีแฟนที่ดี แต่ก็ยังมีคนคอยถามเสมอๆ
ว่าปัจจุบันนี้”เรากับปุ๋ยยังเป็นแฟนกันอยู่อีกเหรอ?”555+ก็เพราะชอบถามกันแบบนี้แหละ
ทำให้เรากับปุ๋ยต้องแอบเจอกันลับหลังแฟนปุ๋ยทุกที
ฝากถึงคนที่ไม่ได้มาอ่าน...
“ขอบคุนมากนะที่เคยรักเรา และทำเพื่อเรามากมาย
เราไม่มีอะไรจะพูดหรอก นอกจากคำสัญญาว่า
เราจะดีกับปุ๋ยตลอดไป”
PS.
-ตอนนี้ถ้ามีใครไปถามปุ๋ยว่าเคยคบกับมัดหรือป่าว?
-มันจะตอบว่า”ไม่เคยคบกัน”555+
-แฟนคนต่อไป หน้าต่อไปแล้วกัน
-จะไปซื้อทัดดาวบุษยามาอ่านแล้วหล่ะ
-เจ้าฮ่ะๆ

วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

เซอร์ไพร์ส..หน่อยสิ

นี่ก็เป็นวันที่19ก.พแล้ว
จนป่านนี้นู๋ยังไม่ได้ของขวัญวันวาเลนไทน์(เวอร์ชั่นเต็มจากแฟนเลย)
ได้แต่พรีวาเลนไทน์คือ ช็อคโกแล็ตฟอร์เรโร่ 6ลูก
ติดรูปหัวใจปะหน้าด้วยช้างน้อย(ไม่มีรูปเพราะวันที่ได้ยังงอนๆแฟนอยู่)
แล้วตอนนี้แฟนนู๋ช่วยกินไปจะหมดแระ
ส่วนนู๋พรีวาเลนไทน์แฟนพร้อมน้ำตา
มีอย่างที่ไหนนู๋ไปหาซื้อกางเกงขาเดฟให้แฟน
เดินหาสะขาลาก อยากได้ทรงสวยๆเอาใจแฟน
แล้วร้านที่ซื้อเนี่ยสีดำสวยที่สุด แพงที่สุด
โดยส่วนตัวชอบกางเกงสีเข้มๆอยู่แล้วด้วย
พอเห็นก็ถูกใจเพราะเป็นสีดำสนิททั้งตัว
แต่เย็บด้วยด้ายสีเขียวสะท้อนแสง
พอซื้อเสร็จกลับมาร้านแฟนมาเปิดกระเป๋าหยิบของ
เห็นกางเกงที่เตรียมจะเซอร์ไพร์ส(หมดไปแล้วหนึ่งเซอร์ไพร์ส)


พอหยิบออกมาจากถุงให้แฟนดูพอแฟนเห็นสี
ก็บอกว่า”ไม่ใส่นะ ไม่ชอบ”
หึหึหึ จะเหลืออะไรให้ผู้หญิงอย่างชั้นบ้าง
นอกจากความเสียใจ.....
เดินออกไปซื้อของน้ำตาตก จุกจนพูดไม่ออก
รู้สึกเหนื่อยสุดๆ ล้าสุดๆ พูดไม่ออก
หมดไปแล้วพรีวาเลนไทน์
แต่ด้วยความพยายามไม่มีที่สิ้นสุด
วันที่13ก.พหลังจากไปไหว้เหล่าม่า-อากุงที่สีลมเสร็จ
ไปเดินเลือกเสื้อให้แฟนสำหรับวาเลนไทน์อีก2ตัว
เพราะแฟนชอบบอกว่า.....
“ นู๋ซื้อเสื้ออาทิตย์ละสองตัวแต่แฟนนู๋ซื้อสองเดือนหนึ่งตัว”
เมื่อแฟนบอกมา เราจัดให้
ได้เชิ้ตมาอีกสองตัว ซุกๆไว้ในกระเป๋า
ตกกลางคืน แฟนมาเปิดกระเป๋าหยิบของ
เจอถุงเสื้อที่คิดว่าซ่อนแล้ว อีกครั้ง
หมดกันสำหรับเซอร์ไพร์สวาเลนไทน์
และวันนี้ล่าสุด
เนื่องจากแฟนมีปัญหาเกี่ยวกับริ้วรอยใต้ตาและถุงใต้ตาบวมมากๆๆ
เราก็เลยไปสั่งเวิลม้องขนาดทดลองให้แฟนมาลองใช้
แต่กะจะให้ตอนวันเกิดแฟนตอนต้นเดือนหน้า
ก็เลยซ่อนไว้ในถุงแชมพูซึบากิ แอบๆ
แต่แล้วพอกลับมาร้าน
แฟนแอบเห็นถุงแว๊ปๆ แฟนเลยมารื้อๆกระเป๋า
เจอไปอีกหนึ่งเซอร์ไพร์ส
หึๆต่อจากนี้ ไม่ต้องมีแล้วเซอร์พ้ง เซอร์ไพร์สอะไรทั้งนั้น
ซ่อนในกระเป๋าแฟนก็เจอทุกที
วันหลังก็จะไม่ซ่อนแล้ว
จะพาไปซื้อด้วยกันแล้วให้พี่จ่ายตังค์เองสะเลยดีไม๊?
อยู่ด้วยกันทุกวันไม่เคยมีเซอร์ไพร์สอะไรเลยจิงๆ
อยากมีเซอร์ไพร์สๆๆๆๆๆๆๆๆ
พูดถึงเรื่องของขวัญวาเลนไทน์ของนู๋
ยังไม่ได้เลยยยยยยยยยยย
แฟนนู๋ก็ไม่มีเซอร์ไพร์ส
วันนี้ก่อนไปเอาครีมให้แฟน
แวะไปสั่งทำแหวน
ที่แฟนจะซื้อให้ในโอกาสวันปีใหม่
เพิ่งไปสั่งวันนี้ หึๆ นี่ก็เลยวาเลนไทน์แล้ว
เพิ่งไปสั่งของขวัญปีใหม่(สงสัยของขวัญวาเลน์ไทน์นู๋ต้องรอสงกรานต์)
เรื่องแหวนปีใหม่..........
พี่ซื้อให้เนื่องในโอกาสปีใหม่
แต่นู๋สั่งเอง เลือกแบบเองคนเดียว พี่อยู่ร้านทำงาน
นู๋ไปสั่งทำแหวนที่แฟนจะซื้อให้ปีใหม่”ด้วยตัวเองคนเดียว”

ไหนอ่ะเซอร์ไพร์ส ไหนๆ
จะบอกว่าตั้งแต่คบกันมา พี่ไม่เคยทำเซอร์ไพร์สนู๋เลยนะ
โกดๆๆๆๆๆ
นู๋อยากได้เซอร์ไพร์ส พี่เข้าใจบ้างไม๊?
ใครก็ได้สอนแฟนนู๋ทำเซอร์ไพร์สที ได้โปรดๆ

PS.
-พ่อกับแม่กลับมาจากเชียงรายแล้ว
-คืนนี้พี่ก็ไม่ได้นอนกอดนู๋อ่ะจิ
-วันนี้ที่ร้านเรื่อยๆเอื่อยๆแต่ก็ดี
-น้ำพริกสดที่แฟนทำให้อร่อยที่สุดในโลก
-ที่รัก”เซอร์ไพร์สนู๋บ้าง” pls.
PS.2
-ตอนนี้กำลังเป็นห่วงคนๆนึง
-เค้ากำลังจะมีอนาคตที่ดี
-เราไม่อยากให้เค้าต้องมัวหมอง
-กับเรื่องราวที่ไม่สร้างประโยชน์
-ออกมาจากเรื่องพวกนั้นเถอะ
-ไม่อยากเข้าข้างโดยไม่รู้ถูกผิด
-เพราะพวกเราไม่ได้เป็นเด็กกันแล้วนะ
-อาทิตย์หน้าคงต้องโตพอที่จะรับผิดชอบชีวิตอื่นๆได้แล้ว
-เคลียร์ให้ใสที่สุด เคป่ะ?



PS.ท้ายสุด
-เชื่อว่าตอนนี้แฟนงอนนู๋อยู่
-ไม่ชอบให้แฟนงอน
-แต่แฟนขี้งอนมากกกกถึงมากที่สุด
-ดีกันนะค่ะ

วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ฝันร้าย-ร้าย

เมื่อคืนเเฟนนู๋"ฝันร้าย"
ฝันว่า....นู๋มีชู้หน้าตาแบดบอย หน้าดิบๆแรงๆ
นู๋กับชู้คนนั้น"รักกันมาก" สวีต หวานกันสุดๆ
แฟนนู๋ตกใจตื่นขึ้นมา โมโหมากจนไม่สามารถข่มตาให้หลับต่อได้
นั่งทำใจอยู่พักใหญ่จึงหลับต่อ
ตื่นมาตอนเช้าแฟนนู๋อารมณ์ไม่ดี เห็นอะไรก็หงุดหงิด ไม่เข้าตาไปสะหมด
โทรหานู๋ตอนสายๆ อารมณ์ยังคุกกรุ่น
จนถึงบ่ายๆก็ยังอารมณ์ไม่ดี
กว่า6-7ชั่วโมง ที่คนดีของนู๋อารมณ์เสียกับความฝัน55555+
พอเถอะนะ หายอารมณ์ไม่ดีได้แล้ว
เพราะในความเป็นจริง...
"เรายังอยู่ด้วยกันทุกวัน เรายังรักกันไม่ใช่เหรอค่ะ?"

จะอารมณ์เสียทำไมกะอีแค่"ความฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง"
เพราะถ้านู๋จะมีกิ๊กจริงๆ" กิ๊กนู๋ต้องขาว ตี๋และเอ๊าะๆเท่านั้น" กร๊ากๆๆๆ

สงสัยถ้าแฟนตื่นมาอ่าน แฟนคงบีบคอ55555+

เมื่อวานไปกินหมูเจงกิสข่านมา
ถ่อไปถึงคลองถมนั่งย่างหมูตอนห้าทุ่ม
ประโยคเดิมๆ"ไม่ร้อยโลก็บุญเท่าไหร่"
กินเสร็จก็ไปเดินย่อยหมูที่สะพานพุทธ
ไปสะพานพุทธไม่เคยได้อะไรติดมือกลับมาบ้าน
ของไม่เคยถูกใจ เสื้อผ้าก็ไม่ใช่แนวเราสองคน
แต่ปิดร้านตอนสี่ทุ่ม ไม่รู้จะไปเดินที่ไหนแล้วจริงๆ

เรื่องน่ารักประจำวัน....
เมื่อคืนระหว่างเดินไปร้านหมูเจงกิสข่าน
เดินอยู่ดีๆแฟนก็คว้าตัวเข้าไปกอด
ด้วยความตกใจ เราเลยเบี่ยงตัวออก
พร้อมกับบ่นว่า...
"พี่นี่มันเมืองไทย ไม่ใช่เมืองนอกนะ ทำแบบนี้ได้ยังไง"

แฟนเราเลยแว๊ดๆกลับมาว่า...
"แหมม ค่าเครื่องตั้งเท่าไหร่ จะกอดแฟนตัวเองทั้งทีต้องจ่ายค่าเครื่องบินเลยหรอ?"

น่าคิดโน๊ะ ถ้าการกอดนู๋สักที ต้องเสียค่าเครื่องบิน
"พี่จะยอมจ่ายไหม?"

นี่แหละเรื่องที่ทำให้นู๋ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ได้ทั้งวัน
เพราะการถูกคว้าตัวเข้าไปกอดตอนกำลังเดินเเบบรีบๆ
มันทำให้ผู้หญิงอย่างนู๋"หัวใจพองโต"


ขอบคุนที่พาไปเลี้ยงหมูเจงกิสข่านนะค่ะที่รัก
เบคอนก๊ะกุ้งของเค้าอร่อยเหาะไปเลยโน๊ะ
ตรุษจีนไปกินกันอีกนะค่ะ(เด๋วจะพาไปเดินงานเยาวราชวันที่15)

PS.
-วาเลนไทน์บอกที่รักว่า
-เราซื้อรองเท้าคร็อครุ่นฮัลโหลคิดตี้เเลกกันคนละคู่นะ
-ที่รักกับบอกว่าเด๋วพี่ซื้อให้นู๋
-แต่นู๋ไม่ต้องซื้อให้พี่หรอก เพราะพี่ไม่ใส่
-รองเท้าอะไรรูปทรงน่าเกลียด(พูดเหมือนแม่เราเลย)
-หืมๆรูปทรงไม่สวยแต่ใส่สบาย รองรับน้ำหนักได้ดี
-เป็นรองเท้าที่ซับพอร์ดการเดิน นุ่มไม่เจ็บเท้า
-คุณประโยชน์มากมาย เหมาะสมกับคู่รักเดินทรหดอย่างเรา
-แต่พี่กลับบอกว่าไม่อยากใส่ น่าเกลียด
-หืมๆมันน่ามีกิ๊กต้อนรับวาเลนไทน์ไหมเนี่ย?
-ชั้นอุตส่าห์ไม่ใส่รองเท้าส้นสูงห้านิ้ว หันมาใส่รองเท้าแบนติดพื้นแล้วนะย่ะ
-เลิอกเอาแล้วกัน
-ระหว่างสูงห้านิ้ว กับ แบนติดพื้น อยากเดินข้างๆกันแบบไหน
-หรืออยากให้ไปเดินข้างๆคนอื่น ฮึฮึ ขู่ๆ

วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

เมื่อเธอไม่อยู่...

วันนี้นู๋เหงาๆ งุ้งงิ้ง วันนี้ไม่มีใครคอยแหย่ ไม่มีใครคอยกวน
นู๋นั่งเฝ้าร้านอยู่กับบรรดาหมอๆอย่างเหงาหงอย
เมื่อไหร่ที่รักจะกลับมา?

เรื่องสนุกประจำวัน...
วันนี้ป้ากช ถามนู๋ว่านู๋เลี้ยงตัวเงินตัวทองไว้ที่ร้านเหรอ?
"ตัวเงินตัวทอง"คือสัตว์เลี้ยงเหรอ?
ถามไปถามมาได้ความว่า...
ร้านเรามีตัวเงินตัวทองเข้ามาอยู่ที่เคาเตอร์เก็บเงินเเหละ
ขนาดประมาณ2นิ้วกว่าๆ ลายเหลืองๆขาวๆ สวยงามมาก(ป้ากชบอก)
พี่หนูหิ่นก็เห็นหางเเว๊บๆ
กลายเป็นว่า...ทุกคนในร้านไปนั่งรวมตัวกันบนเตียงนวดตัวแทบจะทับกันตาย
พี่หล่อบอกว่า"ถึงพี่จะเป็นทอมแต่พี่ก็เป็นทอมตาขาวนะคับ"(บอกเพื่อ?)

นู๋ก็เลยไปเรียกหน่วยจารกรรมสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตทุกชนิดในโลก(เฮียคนจีน)จากชั้นช่าง
พอเฮียลงมาเฮียก็เปิดๆดูแล้วโยนตังค์ใส่พร้อมโรยแป้ง
แต่พี่เชื่อป่ะ?
พอเฮียลงมาพี่หล่อก็หายตาขาวทันที รีบเข้ามาเคลียร์ทางพร้อมจูงเฮียมาดู
จัดการโรยแป้งให้เสร็จสรรพ ฮีโร่โคดๆอ่ะพี่หล่อ
สุดท้ายเฮียก็ให้พี่หงส์ดำผุ้ที่กลัวที่สุดไปเอาที่โกยขยะมา
และเฮียก็เคาะให้คุณวรนุชเข้าไปในที่โกยขยะ
ป้ากชก็เป็นคนเอาไปปล่อยคืนสู่ป่าหลังบ้าน
ทำงานกันเป็นทีมดีโน๊ะพี่โน๊ะ
ส่วนตัวนู๋ยืนสังเกตการอยู่บนเตียงตั้งแต่พี่หนูหิ่นเห็นหางคุณวรนุชแล้ว

แม่่ซื้อสตอเบอร์รี่มาอีกแล้วนะ
นู๋กินคนเดียวไปครึ่งโล คิดถึงที่จังไม่มีใครแย่งเลย
เศร้าสร้อยหงอยเหงา กลับมาได้แล้ว
ไม่ต้องอยู่ถึงวันจันทร์หรอก


PS.
-กลับมาเด๋วนี้เลยนะ
-Miz u
-T-T

วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2553

test-test

แอบมาสร้างบล็อคใหม่ เพราะจำรหัสบล็อคเก่าไม่ได้
จะพูดไปก็อนาจใจตั้งแต่มาทำร้านไม่ได้เล่นเน็ตเลย
รหัสเมล์ รหัสเอ็ม รหัสบล็อค ลืมหมด เข้าอะไรไม่ได้สักอย่าง


อัพเดทชีวิตที่ไม่มีใครอยากรู้สักเล็กน้อยดีก่า

ตอนนี้ชีวิตมีความสุขดี เรื่อยๆตามอัตภาพ

การเงิน...ดีขึ้น(เชื่อว่าเพราะศรัทธาและความอดทน)

การงาน...เริ่มเข้าที่เข้าทาง(จะบอกว่านู๋เเอบเปิดร้านนวดแผนไทยเล็กๆแหละ)
เข้าเดือนที่หกแระ ห้าเดือนแรกเนี่ยแทบลากไส้ออกมาล้าง
สามเดือนแรกร้องไห้เกือบทุกวัน
เดือนสี่ เดือนห้า ทำเองมันตั้งแต่นวดลูกค้ายันขัดห้องน้ำ
นิ้วล็อค เอวนี่ปวดจนร้าว
แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้ ภูมิใจสุดๆไปเลย อิอิอิ

การเรียนก็กำลังพยายามเป็นบัณฑิตน้อยๆของพ่อแม่ให้ได้ภายในซัมเมอร์นี้อยู่ (ยากไปมั้ง)
8วิชาสุดท้าย+ฝึกงาน พ่อจะได้สมหวังสักที

สุขภาพ...ตอนนี้นู๋เป็นโรคอ้วน...จนได้ชื่อเกาหลี="พุงนำนม"
ปิดร้านดึก ทำงานเหนื่อย เลยกินมาก
ไปเยาวราชเกือบทุกอาทิตย์
ข้าวมันไก่เอย ก๋วยจั๊บเอย กระเพาะปลาเอย ตบท้ายด้วยรากบัว+พุทราอีก1ถ้วย
ตอนห้าทุ่มไม่อัพเป็นร้อยโลก็บุญคุ้มหัวแระ

เพื่อนๆ...ตอนนี้เดินสายไปงานรับปริญญาเพื่อนอยู่ รู้สึกว่ารับกันทุกอาทิตย์เลย(เซเลบอย่างนู๋ก็เริ่มเหนื่อย อิอิ)
เจอกันกี่ทีก็เรื่องเดิม"ผู้รั้ง"5555+
รักที่สุด ก๊ะ komonyong
ขอบคุน11ปีที่รู้จักกันมา ขอบคุนที่ทำให้สัมผัสถึงคำว่า"เพื่อนแท้"และขอบคุนที่เป็นเพื่อนกัน
เมื่อไหร่จะะเเต่งงานกันไปสักคน หืมๆ

ความรัก.... หุหุหุๆกรี๊ดๆ ในที่สุดก็มีแฟนเแป็นของตัวเองสักที
หลังจากเป็นข่าวว่าคั่วแฟนคนอื่นมาหลายคน(เฌอมาลย์ชัดๆ555)
ข่าวลือทั้งนั้น ไร้สาระทั้งเพ แต่เพราะมีเรื่องเข้ามาก็ทำให้เรา"ตาสว่าง"
เพื่อนสนิทต่างตั้งฉายา"เฌอมาลย์"ให้โดยมิได้นัดหมาย555
หลังผ่านเรื่องเลวร้ายมาได้...
จำเลยร่วมถามไถ่ว่า"ตอนนี้เป็นไง?คิดยังไงกับเรื่องนี้?
ตอบ...ไม่คิดค่ะ คิดไปก็เท่านั้น คิดไปเสียเวลาเปล่าๆเสียเวลาทำงาน(ยังคงconcept)

ปัจจุบันนี้มีความสุขดี ทำงาน เรียน ทะเลาะกะเเฟนของตัวเองไปวันๆ
จบข่าว...

Ps.
- บางทีรักเพื่อนมากแต่แสดงออกไม่เก่ง พูดหวานๆไม่ค่อยเป็น
-แต่เพราะรักมาก เลยทำให้เสียความรู้สึกได้ง่าย...
-แต่ขอสักอย่างเถอะ ได้โปรด....
- เลิกคบไปเลยง่ายกว่าที่จะทำเหมือน"ไม่รู้จักกัน"
-เพราะยิ่งพูดว่ารู้จักกันดีมากเท่าไหร่
-แต่ยิ่งได้ฟังคำพูด ยิ่งได้เห็นการกระทำที่ไตร่ตรองมาแล้วว่าดี
-"กุยิ่งปวดใจ"
Ps. 2
-ขอบคุณ"ศรัทธา"ที่ทำให้ทุกๆอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
Ps. 3
-มีแฟนขี้งอลพอๆกับตัวเอง บางทีก็กลุ้มใจ-*-
-คนมันมีแผล อะไรนิดหน่อยมันก็เจ็บ
-เเต่เค้าว่าเค้าทายาชนิดที่ดีที่สุดแล้วนะ^-^
PS.สุดท้าย
-คิดถึงพี่ๆในบล็อคทุกๆคนเลย
-อ่านตลอดนะ แต่ไม่เเสดงตัว หุหุ

ผู้ติดตาม